NingXia Red เก๋ากี้ซูเปอร์ฟู้ดบำรุงร่างกายที่ทรงพลัง!!
NingXia Red (หนิงเซีย เรด) เครื่องดื่มรสหวานอมเปรี้ยวนี้สกัดจาก “โกจิเบอร์รี่” หรือ Chinese Wolfberry (คนไทยเรียก “เก๋ากี้”) ผลไม้ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดอายุวัฒนะตามประวัติศาสตร์จีน
NingXia Red ยังมีน้ำผลไม้และสารสกัดจากพลัม อาโรเนียเชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และทับทิม เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในผลไม้เหล่านี้ รวมถึงยังมีสารอาหารที่จำเป็นในการช่วยดูแลสุขภาพองค์รวม
NingXia Red เต็มไปด้วยอาหารเสริมเพื่อสนับสนุนสุขภาพโดยรวม NingXia Red ยังมีสารสกัดวานิลลาบริสุทธิ์ น้ำมันหอมระเหยเลมอน ส้ม ส้มเขียวหวาน และยูซุ เพื่อการส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี
ประโยชน์ของผลไม้ต่างๆที่อยู่ใน NingXia Red เช่น ให้พลังงาน มีสารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ตามธรรมชาติ สนับสนุนการทำงานของเซลล์ในร่างกายให้เป็นปกติ บำรุงสุขภาพตา และบำรุงร่างกายแบบองค์รวม
ดื่ม NingXia Red วันละ 60-120 มล. ทุกวันจะช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
NingXia Red ขวด 750 มล. ได้รับการรับรองฮาลาล และโคเชอร์
อนุมูลอิสระ สามารถเกิดได้จากความเครียด อาหารที่เรากินเข้าไป อากาศที่เราหายใจ สารเคมีที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน
อนุมูลอิสระทำให้เซลล์ในร่างกายมนุษย์สลายตัว (เร่งอายุ) มันทำร้ายสุขภาพของเซลล์และทำลายดีเอ็นเอ ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ที่นำไปสู่โรคมากมายในที่สุด
สาเหตุที่เราแก่เร็ว ผิวเหี่ยวย่น หรือรู้สึกเหนื่อยล้านั่นเป็นเพราะอนุมูลอิสระมากเกินไป
จากการวิจัย คนที่อาศัยอยู่ในเมือง วันๆหนึ่งเซลล์จะสัมผัสถูกอนุมูลอิสระมากกว่า 10,000 อนุมูลต่อเซลล์ต่อวัน!!
ในการวิจัยหาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้ ค่าที่นิยมใช้ในการวัดหาสารต้านอนุมูลอิสระคือ ORAC (Oxigen Radical Absorbance Capacity) ผลไม้ที่มี ORAC สูงมักอยู่ในตระกูลเบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น โกจิเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ พลัม ซึ่งล้านเป็นส่วนผสมที่สำคัญใน NingXia Red
ประโยชน์ที่ได้จากการทานผลไม้ที่มีค่า ORAC สูงเป็นประจำ
การทานผลไม้ที่มีค่า ORAC สูงเป็นประจำ สามารถช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือดได้ถึงร้อยละ 10-25 ซึ่งมีส่วนช่วยปกป้องเซลล์ของสมอง และร่างกายจากการเสื่อมสภาพ (Anti-Aging) จากสารอนุมูลอิสระ (อ้างอิง: USDA High-ORAC Foods May Slow Aging)
"เก๋ากี้" ซูเปอร์ฟู้ดตามตำราแพทย์จีน
โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Chinese Wolfberry มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน
เก๋ากี้ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายพันปีในประเทศจีนโบราณด้วยเหตุผลทางการแพทย์ มีการค้นพบบันทึกการใช้งานของเก๋ากี้ในคู่มือแพทย์จีนโบราณ “Ben Zai Gen Mo” ที่เขียนขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง
เก๋ากี้พันธุ์ดีที่สุดจะต้องเป็นพันธุ์ที่มาจากเมือง “หนิงเซี่ยหุย” (NingXia Hui) หนึ่งในห้าเขตปกครองตนเองของจีน ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน
เก๋ากี้หนิงเซี่ย เป็นเก๋ากี้พันธุ์ที่มีวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนและ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
เก๋ากี้หนิงเซี่ย (NingXia Wolfberry)
เก๋ากี้เป็น Superfood ขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งโปรตีนจากพืชที่มีชื่อเสียง
โปรตีนเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์เม็ดเลือดขาวและสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนติบอดี) อุดมไปด้วยกรดอะมิโนลิวซีน และแอลอาร์จินีน กรดอะมิโนกึ่งจำเป็น
นอกจากนี้ยังมีแคโรทีนอยด์สูงอันดับต้นๆ ในบรรดาซูเปอร์ฟู้ด รวมถึงสารชีวโมเลกุลอื่น ๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น กรดอะมิโน กรดไขมัน วิตามินแร่ธาตุโพลีแซ็กคาไรด์ และโมโนแซคคาไรด์
เก๋ากี้หนิงเซี่ย ที่แห้งแล้วยังแสดงให้เห็นว่ามีดัชนีน้ำตาลต่ำมาก
NingXia Red จาก Young Living ใช้เก๋ากี้หนิงเซี่ย (Lycium Barbarum) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเก๋ากี้พันธุ์ดีอันดับต้นๆของโลก!! นอกจากนี้ ยังเป็นเก๋ากี้ออแกนิค 100% ที่ปลูกโดยไม่มีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในทุกส่วนของกระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว และผลิต
Seed To Seal คือกระบวนการการันตีคุณภาพของ Young Living ว่าสินค้าทุกล็อต ปลอดยาฆ่าแมลง ไม่มีกำมะถัน ไม่ฉายรังสีไม่มีสีย้อม และไม่มีโลหะหนัก อย่างตะกั่ว ปรอทหรือ แคดเมียมในดินของฟาร์มที่ปลูก
NingXia เก๋ากี้ซูเปอร์ฟู้ดที่เป็นมากกว่าแค่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
นอกจากประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระของผลไม้ชนิดต่างๆที่อยู่ใน NingXia Red เก๋ากี้หนิงเซี่ย ยังมีเบต้าแคโรทีน มีวิตามินซี กรดอะมิโน 18 ชนิด และแร่ธาตุ 21 ชนิด ทั้งหมดล้วนเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
วิตามิน
วิตามินซี – มีความสำคัญอย่างมากในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน เนื่องจากช่วยเพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการโจมตีเชื้อโรคในร่างกาย
วิตามินบี 1 (ไทอามิน) และบี 3 (ไนอาซิน) – ไทอามินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และการทำงานของต่อมไทรอยด์ หนิงเซี่ยเก๋ากี้ ยังมีไนอาซิน 100 เท่าของรำข้าวโอ๊ตและ 2 เท่าของยีสต์ขนมปัง ไนอาซินเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง
แร่ธาตุ
แร่ธาตุมีความสำคัญมากเนื่องจากวิตามินไม่สามารถดูดซึมหรือใช้โดยร่างกายได้หากไม่มีแร่ธาตุ
นอกจากนี้แร่ธาตุจะต้องมีความสมดุลอย่างเหมาะสม ปริมาณแร่ธาตุที่มาก หรือน้อยเกินไป อาจทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องและมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมา
แคลเซียม
แคลเซียมมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก ช่วยลดไขมันในร่างกาย และช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด
แมกนีเซียม
แมกนีเซียมช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังรักษาอาการซึมเศร้าและอาการปวดหัว
โพแทสเซียม
โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญที่สุดเพียงชนิดเดียวต่อสุขภาพและอายุที่ยืนยาวของมนุษย์
โพแทสเซียมจำเป็นสำหรับอิเล็กโทรไลต์ที่ปกติและสมดุล pH ภายในเซลล์
โพแทสเซียมเมื่อรวมกับแมกนีเซียมจะทำให้ความดันเลือดซิสโตลิกและไดแอสโตลิกลดลงอย่างมาก
โครเมียมและสังกะสี
โครเมียมเป็นส่วนหนึ่งของ Glucose Tolerance Factor ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและทำให้น้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายขึ้น
โครเมียม และสังกะสี มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ทั้งคู่เป็นแนวป้องกันแรกของระบบภูมิคุ้มกันช่วยในการผลิตเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ และเพิ่มกิจกรรมการฆ่าเชื้อโรคของมาโครฟาจ (เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง)
โปรตีน
โปรตีนกรดอะมิโนจะเป็นอย่าง L-arginine และ L-glutamine มีส่วนช่วยเรื่องสุขภาพอย่างมาก
อาร์จินีนช่วยลดความดันโลหิต กระตุ้นฮอร์โมนการเจริญเติบโต และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เพื่อต่อสู้กับโรคเบาหวาน และเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ไฟเบอร์
การบริโภคไฟเบอร์ หรือเส้นใยอาหารในปริมาณมาก ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ลดความดันโลหิตช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้ดีขึ้น
ไฟโตนิวเทรียนท์
ไฟโตนิวเทรียนท์สามารถช่วยปกป้อง ตับ ตา หัวใจ และดีเอ็นเอของเซลล์ จากโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ
โพลีแซคคาไรด์
จากวิจัยจำนวนมากได้พิสูจน์คุณสมบัติของโพลีแซ็กคาไรด์ในการป้องกันโรคหัวใจ ต้านมะเร็ง และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้โพลีแซคคาไรต์ยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และปกป้องตับอ่อน
แคโรทีนอยด์
สารแคโรทีนอยด์ เช่น ซีแซนทีน ลูทีน และเบต้าคริปโตแซนธิน ซีแซนทีน และลูทีน ช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง และปกป้องดวงตาจากโรคต่างๆเช่นการเสื่อมสภาพที่เกี่ยวข้องกับอายุ
Beta-cryptoxanthin ช่วยยับยั้งมะเร็ง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก และมีส่วนช่วยลดโอกาเกิดโรคต้อหินลง 18% ในการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
NingXia Red กับสูตรผสมที่ลงตัวในการดูแลสุขภาพองค์รวม
สิ่งที่ทำให้ Young Living NingXia Red เป็นเครื่องดื่มเก๋ากี้ที่ไม่เหมือนใคร… เพราะนอกจากจะคัดเก๋ากี้หนิงเซี่ยชั้นดีจากจีนต้นตำรับ ยังผสมน้ำผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อีก 6 ชนิด และน้ำมันหอมระเหยเกรบบำบัดสูตรเฉพาะของ Young Living เพื่อประโยชน์จากสารอาหารที่จำเป็นต่อทุกระบบในร่างกาย แถมยังช่วยเพิ่มอัตราการดูดซึมของ NingXia ด้วย
NingXia Red มีส่วนผสมของบลูเบอร์รี่ อาโรเนีย เชอร์รี่ ทับทิม และน้ำพลัม สารสกัดหญ้าหวานจากธรรมชาติ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น สารสกัดวานิลลาบริสุทธิ์ น้ำมันหอมระเหยแท้ 100 % จากส้มยูซุ มะนาว และส้มเขียวหวาน
NingXia Red หนึ่งขวด มีประโยชน์จากผลไม้อะไรบ้าง?
NingXia Wolfberry
NingXia เก๋ากี้ เป็นส่วนผสมหลักใน NingXia Red มีประโยชน์ในเรื่องของการดูแลสุขภาพองค์รวม มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยสนับสนุนทุกระบบการทำงานของร่างกาย มีประโยชน์ต่อสายตา สุขภาพเซลล์ในร่างกาย รวมถึงระดับพลังงานให้แก่ร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นได้อย่างดีด้วย
Black Chokeberry
โช้คเบอร์รี่ หรือ อาโรเนีย เป็นผลไม้ที่มีปริมาณโพลิฟีนอลสูง ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนร่างกายในการสร้างภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี
Pomegranate
ทับทิม เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ และยังถือเป็นผลไม้มงคลของจีนอีกด้วย ทับทิมมีกรดโฟลิก วิตามิน A, C และ E, โพแทสเซียม และไนอะซิน ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ
Plum
พลัม มีประโยชน์ช่วยระบบย่อยอาหาร ระบบลำไส้ ระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี แถมยังมีส่วนช่วยสนับสนุนสุขภาพกระดูกได้อีกด้วย
Sweet Cherry
เชอร์รี่หวาน เป็นผลไม้มีประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารพฤกษเคมีนานาๆชนิด
Bluebery
บลูเบอร์รี่ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ไฟเบอร์ วิตามินเค และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมายอย่างสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ช่วยปกป้อง DNA ของเซลล์ สนับสนุนสุขภาพสมองได้เป็นอย่างดี
เก๋ากี้กับการ "ทำความสะอาด" เซลล์ที่ถูกอนุมูลอิสระ
เข้าใจให้ตรงกันก่อนว่าเก๋ากี้ไม่ได้เป็นอาหารเสริมที่ช่วย “รักษาร่างกาย” ในทางกลับกัน ประโยชน์ของเก๋ากี้ NingXia คือการฟื้นฟูสภาพเซลล์จากอนุมูลอิสระต่างๆ
NingXia เป็นพลังงานอย่างดีให้กับไมโทคอนเดรียที่อยู่ในเซลล์ของเรา
เวลาที่เรากินอาหารฟาสท์ฟู้ด หรืออาหารแปรรูป จะทำให้เซลล์เราจับตัวกันเป็นก้อน เนื่องจากลิพิดของเซลล์เหนียวมากขึ้น ทำให้เซลล์ขาดออกซิเจน NingXia จะช่วยให้เซลล์ได้พลังงานที่จำเป็น ลดการจับตัวเป็นก้อน ล้างอนุมูลอิสระที่ทำร้ายเซลล์ออก และให้เซลล์ได้กลับมาทำหน้าที่ตาม “ปกติ”
โดยปกติร่างกายคนเราจะผลัดเซลล์ชุดใหม่เมื่อครบทุก 4 เดือน หากคนที่ทาเก๋ากี้ติดต่อกัน 2-4 ช้อนโต๊ะต่อวัน (60-120ml) ต่อเนื่องกัน 4 เดือนจะรู้สึกถึงความแต่ต่างก่อน-หลังได้เป็นอย่างดี (ระยะเวลาในการเห็นผล แล้วแต่บุคคลด้วย)
เซลล์เม็ดเลือดแดงที่จับตัวกันเป็นก้อน
เซลล์เม็ดเลือดแดงปกติ
มีงานวิจัยจำนวนมากศึกษาเกี่ยวกับสรรพคุณ และประโยชน์ต่อสุขภาพองค์รวมจากหนิงเซี่ยเก๋ากี้ (Lycium barbarum) ซึ่งมีรายงานผลลัพธ์ที่น่าสนใจหลายประการในอาสาสมัครกลุ่มทดลอง เช่น
- ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งชนิดลุกลาม ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง (malignant melanoma), มะเร็งไต (renal cell carcinoma), มะเร็งลำไส้ (colorectal carcinoma), มะเร็งปอด (lung cancer) และ มะเร็งหลังโพรงจมูก (nasopharyngeal carcinoma)
- ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ความตื่นตัว สมาธิ ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ รวมถึงสมดุลทางอารมณ์
- ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระประเภท superoxide dismutase (SOD), glutathione peroxidase (GSH-Px) และ lipid peroxidation
- ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย โดยช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาวขนาดเล็ก (lymphocytes), interleukin-2 และ immunoglobulin G ซึ่งทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทานต่อทั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย
เก๋ากี้กับระดับความเป็นกรดในร่างกาย
ในร่างกายคนเรามีกรดอัลคาไลน์อยู่
แล้วเราป่วยจากอะไร? เราป่วยจากกรด!?
เมื่อร่างกายเรามีระดับความเป็นกรดสูงขึ้น ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราจะแพร่พันธุ์ได้เร็วขึ้น
เมื่อเรารักษาระดับความเป็นกรด (pH) ให้เป็นกลาง ร่างกายจะยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรคต่างๆได้ดี
ทุกอย่างที่เรากินจะถูกย่อยในกระเพาะอาหารซึ่งมีค่า pH 2.5 เก๋ากี้คือโปรตีนในรูปอัลคาไลน์ เมื่อเราทานเก๋ากี้เข้าไป เก๋ากี้จะดูดซึมกรดในกระเพาะอาหาร แล้วเปลี่ยนเป็นด่างที่ลำไส้เล็ก
เก๋ากี้มีโครงสร้างทางเคมีในการเปลี่ยนเป็นด่างได้เนื่องจากกรดอะมิโน Tripsin ซึ่งมีหน้าที่ในการเปลี่ยนกรดอะมิโนในโปรตีน
เก๋ากี้กับระดับน้ำตาลในเลือด
น้ำตาลในเลือด = เชื้อเพลิงสำหรับเซลล์ในร่างกายของเรา
น้ำตาลในเลือด (กลูโคส) คือ “พลังงาน” ให้เซลล์ในร่างกายของเรา กลูโคสเป็นพลังงานที่ดีตราบเท่าที่ยังคงอยู่ในระดับปกติ
บทบาทสำคัญของน้ำตาลในเลือด
- รักษาระดับพลังงานระหว่างวัน รวมถึงมีผลต่อการนอนหลับที่ดีที่สุด
- สุขภาพสมองรวมถึงอารมณ์และจิตใจ
- สมดุลของฮอร์โมน
- การจัดการน้ำหนัก
- การทำงานที่เหมาะสม และดีต่อสุขภาพของทุกอวัยวะ
แต่เมื่อไม่รักษาน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติก็จะเริ่มส่งผลเสียต่อร่างกาย
ความไม่สมดุลของน้ำตาลในเลือดเป็นเวลานานจะทำให้ตับอ่อนปล่อยอินซูลิน ตับจะกลายเป็นแหล่งกักเก็บน้ำตาลกลูโคส จากนั้นต่อมหมวกไตจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาเพื่อทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ นำไปสู่ความเหนื่อยล้าของต่อมหมวกไตในที่สุด
ทั้งหมดนี้นำไปสู่ความเหนื่อยล้าพลังงานต่ำ และจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพ
วิธีการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (เช่น โซดา คุกกี้ ซีเรียล พาย น้ำผลไม้ ลูกอม) และน้ำตาลขัดสี
- แบ่งทานเป็นวันละ 5-6 มื้อเล็กๆ (รวมของว่าง) แทน 2-3 มื้อใหญ่ๆ
- หลีกเลี่ยงอาหารดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและปัญหาน้ำตาลในเลือด
- เพิ่มปริมาณแมกนีเซียมในอาหาร
- หลีกเลี่ยงน้ำตาลขีดสีและสารให้ความหวานเทียม
- ใช้อาหารทดแทนความหวานอย่าง หญ้าหวาน น้ำว่านหางจระเข้ หรือน้ำเชื่อมเมเปิ้ลบริสุทธิ์แทนน้ำตาล หญ้าหวานช่วยปรับความผันผวนของน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้
- ให้ความสนใจกับดัชนีน้ำตาลในอาหาร (GI: Glycemic Index)
- รักษาโปรตีนให้เพียงพอในอาหารเพื่อช่วยควบคุมความอยากน้ำตาล (อย่างไรก็ตามอาหารที่มีโปรตีนสูงจะเพิ่มความเครียดให้กับไต (แนะนำให้ทานโปรตีน 15 – 20% ของพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันสำหรับคนที่ไตปกติ)
- เพิ่มปริมาณกากใยอาหาร (ไฟเบอร์) บริโภคไฟเบอร์อย่างน้อย 14 กรัมต่อ 1,000 แคลอรี่ที่บริโภค
- เติมน้ำให้ร่างการอยู่เสมอ! ลดเครื่องดื่มโซดา คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ให้น้อยที่สุด!
- พยายามขยับร่างกายอยู่เสมอ หาวิธีเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายในกิจวัตรประจำวัน
- เพิ่ม NingXia ในมื้ออาหาร NingXia Red ของ Young Living มีดัชนีน้ำตาลเท่ากับ 11 ซึ่งถือว่าต่ำมาก (ส้ม 1 ลูกมี GI เท่ากับ 44)
วิธีทาน NingXia Red ทานยังไง?
NingXia เป็น Superfood ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครจริงๆ! ด้วยสารพัดสารอาหารจำเป็นในการสร้างสุขภาพที่แข็งแรง
การทาน NingXia Red ที่แนะนำคือ 60-120 ml ต่อวัน สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ปริมาณแนะนำจะอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของปริมาณผู้ใหญ่ (30-60 ml)
NingXia Red สามารถทานได้ทุกวัน ทานตอนไหนก็ได้ แต่จะแนะนำทานตอนเช้า หรือก่อนเข้านอนเพื่อให้ร่างกายได้ใช้ประโยชน์จากสารอาหารในหนิงเซีย เรด ได้อย่างเต็มที่
แนะนำวิธีทาน NingXia Red สามารถเทดื่มจากขวด หรือจากซองดื่มเข้มๆ แบบไม่ผสม (ทั้งขวดและซองเป็นน้ำหนิงเซียแบบเดียวกัน) หรือสามารถผสมน้ำเปล่า และเครื่องดื่มโปรดอื่นๆ ได้ตามชอบ
นอกจากนี้ NingXia Red ยังสามารถผสมกับน้ำมันหอมระเหยไวทัลลิตี้ 1-2 หยดเพื่อเพิ่มรสชาติ ทำเป็นเมนูหนิงเซีย DIY ได้ตามชอบอีกด้วย แนะนำลองผสมกับ lemon vitality, citrus fresh vitality, peppermint vitality หรือ orange vitality
NingXia Red ไม่จำเป็นต้องจบอยู่ที่แค่น้ำผลไม้ คุณยังสามารถนำหนิงเซีย เรด ทำเป็นเมนูเครื่องดื่ม หรือขนม DIY ได้มากมาย
บทความแนะนำ: เคล็ดลับ 5 วิธีทาน NingXia Red
NingXia Red ของ Young Living ซูเปอร์ฟู้ดนำเข้าจากอเมริกา มีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบ ตามความสะดวกในชีวิตประจำวัน
สนใจดูแลสุขภาพด้วยเก๋ากี้ NingXia Red?
เพียงเพิ่มเพื่อนในไลน์ @aromaaromdee หรือ ติดต่อทีมงานที่หน้า ติดต่อ/สั่งซื้อ แล้วให้เราช่วยเหลือ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่คุณต้องการ
พิเศษ!! โปรโมชั่น NingXia Set ลดพิเศษ 50%
FAQ ตอบคำถามยอดฮิต
ตอบคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ Young Living NingXia โกจิเบอร์รี่ และชุดเซ็ต NingXia Starter Kit
NingXia Red แนะนำทานวันละ 1-2 ซอง หรือ 60-120 มิลลิลิตร (4-8 ช้อนโต๊ะ) โดยสามารถทานเพียวๆแบบไม่ผสม หรือผสมน้ำ / เครื่องดื่มได้ตามชอบ
ส่วนผสมหลักใน NingXia Red คือน้ำผลไม้โกจิเบอร์รี่ น้ำเบอร์รี่อื่นๆ และ น้ำมันหอมระเหยเกรดบำบัดแบบทานได้เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร
NingXia Red ทั้งแบบขวด และแบบซองมีส่วนผสมเหมือนกัน
ไม่จำเป็นต้องแช่เย็น สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ (ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส) แต่หากอยากทานให้อร่อย แนะนำให้แช่เย็น
แบบขวดแนะนำทานให้หมดภายใน 30 วัน หลังเปิดขวด
NingXia มีให้เลือก 4 แบบ
NingXia Red แบบซอง (60ml) หนึ่งกล่องมี 30 ซอง
NingXia Red แบบขวด (750ml) มีแบบแพ็ก 2 ขวด และ 4 ขวด
NingXia Nitro แบบหลอด (20ml) หนึ่งกล่องมี 14 หลอด
NingXia อบแห้ง Organic Dried Wolfberries (450กรัม)