น้ำมันหอมระเหยคืออะไร และ 4 เทคนิคการเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย

หัวข้อ

น้ำมันหอมระเหยคืออะไร? และเคล็ดลับน่ารู้ก่อนเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย

น้ำมันหอมระเหยคือส่วนที่ทรงพลังที่สุดของพืช! มันสามารถช่วยในเรื่องของสุขภาพ อารมณ์ ฮอร์โมน ความเครียด บทความนี้จะให้ข้อแนะนำเมื่อใช้น้ำมันหอมระเหย เอสเซนเชียลออยล์ (Essential Oil) ให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และปลอดภัยต่อสุขภาพ

อ่านเพิ่มเติม น้ำมันหอมระเหยซื้อที่ไหน

Share
น้ำมันหอมระเหยคืออะไร

น้ำมันหอมระเหยคืออะไร?

น้ำมันหอมระเหย หรือ เอสเซนเชียลออยล์ (Essential Oil) เป็นน้ำมันที่ได้มาโดยกลั่นจากพุ่มไม้ ดอกไม้ ต้นไม้ ราก พุ่มไม้ ผลไม้ เปลือก ยางไม้ และสมุนไพร

น้ำมันหอมระเหยเป็นน้ำมันที่มีกลิ่นหอม เป็นน้ำมันที่ “ระเหย” ได้ โดยน้ำมันหอมระเหยไม่ได้ถูกนำมาใช้เพราะความหอมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ด้วยกลิ่นของน้ำมันชนิดนั้นๆ มีสรรพคุณต่างๆ ที่มีผลต่ออารมณ์ จิตใจ และร่างกาย

น้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารประกอบอินทรีย์จากธรรมชาติหลายร้อยชนิดในมนุษย์ น้ำมันหอมระเหยสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน น้ำมันหอมระเหยเกรดบำบัดสามารถนำมาช่วยให้การสนับสนุนทุกระบบในร่างกาย:

  • ระบบโครงร่างระบบกล้ามเนื้อ
  • ระบบไหลเวียนโลหิต
  • ระบบต่อมไร้ท่อฮอร์โมน
  • ระบบทางเดินหายใจ
  • ระบบภูมิคุ้มกัน
  • สนับสนุนสุขภาพสมองและลดน้ำหนัก
  • สนับสนุนทางจิตวิญญาณ พลังชีวิต การอธิษฐาน
  • สนับสนุนทางอารมณ์

น้ำมันหอมระเหยถูกนำมาใช้เป็นยาช่วยเสริมความงามมานานหลายพันปี น้ำมันในเครื่องกระจายกลิ่น (Diffuser) สามารถบรรเทาวันที่ยากลำบากของเด็ก ๆ ที่โรงเรียนและช่วยให้จิตใจสงบผ่อนคลายเมื่อคุณมีวันที่เครียดในการทำงาน

น้ำมันหอมระเหยสามารถใช้แทนสารเคมีทำความสะอาดในบ้านได้ คุณสามารถเริ่มเปลี่ยนสารเคมีทุกชนิดในบ้านของคุณเพื่อใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น และราคาที่ประหยัดและคุ้มค่ากว่าผลิตภัณฑ์ผสมสารเคมีแพงๆ!

น้ำมันหอมระเหยเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไรและอยู่ได้นานแค่ไหน?

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักอะโรมาเธอราพีเพื่อใช้น้ำมันหอมระเหย ในกรณีส่วนใหญ่เพียงถูทาน้ำมันลงบนผิวหนัง น้ำมันหอมระเหยมีสามวิธีหลักในการรับน้ำมันเข้าสู่ร่างกาย

  • ชาวอังกฤษจะใช้ทาเฉพาะที่ (ถูบนผิวหนัง)
  • ชาวฝรั่งเศสใช้กินเข้าไปและปรุงอาหาร
  • ชาวเยอรมันจะพ่นเป็นละอองในอากาศและใช้สูดดม

การทดสอบแสดงให้เห็นว่าน้ำมันไปถึงหัวใจตับและต่อมไทรอยด์ ภายใน 3 วินาทีเมื่อหายใจเข้าไป และเมื่อทาเฉพาะที่จะพบในกระแสเลือดภายใน 26 วินาที การขับน้ำมันหอมระเหยออกไปจะใช้เวลา 3-6 ชั่วโมงในร่างกายที่ปกติและแข็งแรง

เกรดของน้ำมันหอมระเหย

เกรดของน้ำมันหอมระเหยถูกแบ่งเป็น 4 ประเภท:

  • เกรด A: เกรดบริสุทธิ์ (Authentic)
  • เกรด B: เกรดผสม (Manipulated)
  • เกรด C: เกรดน้ำหอม (Perfume)
  • เกรด D: เกรดสังเคราะห์ (Synthetic)

เกรด A: น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ (Authentic Essential Oil)

หมายความว่าน้ำมันมีความบริสุทธิ์ 100 % โดยไม่มีสารสังเคราะห์เพิ่มเติมและไม่มีสารเติมแต่งใด ๆ ในขวด ซึ่งมีผลเป็นเกรดที่ใช้ในการบำบัดอาการต่างๆทางร่างการ จิตใจ (Pure, Therapeutic Grade) และนี่คือน้ำมันหอมระเหยของ Young Living!

เกรด B: น้ำมันหอมระเหยผสม (Manipulated Essential Oil)

เกรดนี้เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ถูกทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น โมเลกุลที่หนักกว่าบางส่วนถูกลอกออก หรือมีการนำสารเติมแต่งอื่นมาใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม

เกรด C: น้ำหอม (Perfume)

เป็นน้ำมันหอมระเหยที่ไม่บริสุทธิ์ ผู้ผลิตมักผสมกับสารสังเคราะห์เพื่อเพิ่มความหอม

น้ำมันเหล่านี้ไม่มีฤทธิ์ในการบำบัดรักษา บ่อยครั้งที่มีการใช้สารเคมีที่เป็นตัวทำละลายช่วยในการสกัดน้ำมันจากพืช

เกรด D: น้ำมันสังเคราะห์ (Synthetis Essential Oil)

น้ำมันในเกรดนี้ไม่ใช่น้ำมันหอมระเหยที่แท้จริงแต่อย่างใด น้ำมันกลุ่มนี้จะไม่มีกลิ่นเหมือนพืชดั้งเดิม และโดยทั่วไปจะมีป้ายกำกับว่า “ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม” น้ำมันหอมระเหยแท้คือน้ำมันบริสุทธิ์เท่านั้น

น้ำมันสังเคราะห์ก็เหมือนกับการเปิดตู้เย็นของคุณหยิบน้ำส้มหนึ่งแก้วและเจือจาง 95 เปอร์เซ็นต์ด้วยสารเคมีก่อนที่คุณจะดื่ม!

มันจะไม่มีประโยชน์เหมือนน้ำส้มแท้ ๆ เต็มแก้ว นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องการน้ำมันหอมระเหยแท้

ก่อนที่คุณจะซื้อให้ตรวจสอบว่า บริษัทผู้ผลิตมีการปลูกพืชของตนเอง มีการควบคุมคุณภาพของกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่ฟาร์มจนถึงขวดที่ปิดสนิท ไม่มีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นมลพิษตกค้างบนที่ดินที่ทำการปลูกก่อนหน้านี้… ทั้งหมดนี้สามารถส่งผลต่อคุณภาพของน้ำมันได้

ทำไมคุณพยายามหลีกเลี่ยงสารเคมี โดยการหันไปใช้น้ำมันที่เต็มไปด้วยสารเคมี?

ราคากับคุณภาพของน้ำมันหอมระเหย

ราคากับคุณภาพของน้ำมันหอมระเหย

น้ำมันหอมระเหยที่คุณซื้อตามร้านขายของ หรือตามเคาน์เตอร์ในห้าง ให้ถามคนขายดูว่าเป็นเกรดไหน เป็นยี่ห้อที่น่าเชื่อถือหรือไม่

น้ำมันหอมระเหยที่ขายกันในราคาไม่กี่ร้อยบาท มักจะเป็นเกรดผสม เกรดน้ำหอม หรือเกรดสังเคราะห์ ซึ่งให้เพียงกลิ่นหอม แต่ไม่มีผลในด้านการบำบัด

ในขณะที่น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์จะมีราคาที่สูงกว่า ซึ่งก็เป็นไปตามคุณภาพของวัตถุดิบ กรรมวิธีการผลิต และการควบคุมคุณภาพ

กรรมวิธีการกลั่นน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ต้องผ่านการกลั่นด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นเวลาหลายวันเพื่อดึงน้ำมันที่ดีที่สุดออกจากพืช ซึ่งมีต้นทุนในการกลั่นที่มีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเทียบกับน้ำมันเกรดที่ต่ำกว่า

น้ำมันหอมระเหยที่ราคาถูก มาจากการผลิตแบบประหยัด เช่นฉีดพ่นพืชด้วยสารกำจัดศัตรูพืชเพื่อให้กลั่นได้มากขึ้น ใช้ตัวทำละลายเคมีในการสกัดน้ำมันเพื่อจะดึงน้ำมันออกมาได้มากขึ้น หรือเจือจางด้วยน้ำมันที่ถูกกว่าหรือน้ำมันตัวพา

4 เทคนิคการเลือกซื้อน้ำมันหอมระเหย

หากคุณต้องการซื้อน้ำมันหอมระเหยออแกนิคที่เป็นน้ำมันสกัดจากพืช มีข้อสังเกตน้ำมันหอมระเหยแท้ ดังนี้

1. ฉลากข้างขวดจะต้องเขียนว่า “Essential Oils”

ฉลากบรรจุจะต้องระบุชัดเจนว่าเป็น Essential Oils (น้ำมันหอมระเหย) ไม่ใช่ Fragrance หรือ Perfume (น้ำหอม) ที่เกิดจากสารเคมีเพื่อสร้างกลิ่นสังเคราะห์

ฉลากข้างขวดจะต้องมีชื่อทางพฤกษศาสตร์ของพืชที่นำมากลั่นเป็นน้ำมันชนิดนั้นๆ

สำหรับน้ำมันหอมระเหยที่เป็นเกรดบำบัด จะต้องมีกำกับว่า “Therapuetic Grade” หรือน้ำมันหอมระเหยเกรดบำบัดนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม น้ำมันหอมระเหยซื้อที่ไหน

ฉลากข้างขวดของน้ำมันหอมระเหยแท้
วิธีดูฉลากข้างขวดของน้ำมันหอมระเหยแท้

2. บรรจุภัณฑ์ต้องเป็นขวดแก้วทึบ

น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์นั้นจะต้องใส่ในขวดแก้ว หรือขวดสแตนเลสเท่านั้น เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์จะทำปฎิกริยากับพลาสติก โดยตัวน้ำมันจะไปเกาะอยู่บนผิวพลาสติกบางชนิด ทำให้พลาสติกขุ่น

ดังนั้นน้ำมันหอมระเหยแท้ๆ จะไม่ใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุหรือมีจุกฝาเป็นยางเว้นแต่เป็นพลาสติกชนิดพิเศษ

ขวดแก้วที่บรรจุ จะต้องเป็นขวดสีทึบ นื่องจาก น้ำมันหอมระเหยมีความไวต่อแสง หากโดนแสงสรรพคุณจะค่อยๆลดลง

อ่านข้อแนะนำการจัดเก็บน้ำมันหอมระเหย

3. ศึกษาบริษัทผู้ผลิต และสังเกตความชำนาญของผู้ขาย

ก่อนซื้อน้ำมันหอมระเหย ลองสอบถามผู้ขายดูว่า สามารถแนะนำถึงสรรพคุณได้มั้ย มีข้อห้าม ข้อควรระวังอะไรบ้าง นอกจากผู้ขายแล้ว ยังควรศึกษาบริษัทผู้ผลิตด้วย ผลิตจากที่ไหน ผู้ผลิตมีวิธีตรวจสอบคุณภาพอย่างไร นี้คือสิ่งสำคัญหากคุณต้องการใช้น้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพจริงๆ

4. ราคาน้ำมันหอมระเหยแต่ละขวดจะไม่เท่ากัน และราคาไม่ควรถูกจนเกินไป

เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด จะสกัดจากพืชแตกต่างกัน ราคาวัตถุดิบของพืชแต่ละชนิดไม่เท่ากัน 

น้ำมันหอมระเหยของแท้มักมีราคาสูง เพราะต้องใช้พืชปริมาณมาก ในการสกัดให้ได้น้ำมันออกมาหนึ่งหยด โดยยังมีสรรพคุณอยู่ครบถ้วน

น้ำมันหอมระเหยที่ราคาสูง เช่น น้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบ มะลิ ดอกส้ม กำยาน ราคาควรจะเป็นหลักพันขึ้นไป เนื่องจากวัตถุดิบราคาสูง

การคัดสรรวัตถุดิบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจริงๆ ทำให้ปริมาณของวัตถุดิบในการนำมาสกัดน้ำมันจะน้อยลงไปอีก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายอยู่ในราคาหลักไม่กี่ร้อยบาท

อ่านเพิ่มเติม น้ำมันหอมระเหยซื้อที่ไหน

Search